นิทรรศการเดี่ยวของคุณเคียวโกะ อาเบะในครั้งนี้ได้นำเสนอผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามแห่งโลกสีฟ้า ในโลกอันไกลโพ้นของท้องฟ้า เหล่านกมากมายล่องลอยอยู่ในโลกสีฟ้าโปร่งใสดุจปลาที่แหวกว่ายอย่างอิสระ พวกมันโบยบินพร้อมกับมีแสงอาทิตย์และสายลมเป็นเพื่อนร่วมทาง ทำให้สีฟ้ายิ่งส่องประกายงดงามท่ามกลางท้องฟ้าที่กว้างไกล

นิทรรศการ “Under the sea” นำเสนอความงดงามและหลากหลายของโลกใต้ทะเล ผ่านการตีความและจินตนาการของศิลปินทั้งสี่คน ทะเลไม่ได้มีเพียงสีฟ้า แต่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่หลากหลาย ซึ่งสะท้อนถึงความงามที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ การดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลถูกนำมาถ่ายทอดผ่านสายตาของผู้ที่เห็นคุณค่าและความสำคัญของการอนุรักษ์ พร้อมตั้งคำถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อธรรมชาติสูญเสียสมดุลไป

นิทรรศการกลุ่มครั้งนี้เป็นการรวมตัวของศิลปินหน้าใหม่จากมหาวิทยาลัยเดียวกันที่มีความสนใจในงานจิตรกรรม โดยพวกเขามาร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดและมุมมองในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ภายใต้การนิยามความหมายของคำว่า “วัตถุภาวะ” (Materiality) บทบาทของวัตถุในงานศิลปะและในชีวิตประจำวัน

นิทรรศการเชิงประสบการณ์นี้เปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นพื้นที่พักใจริมชายหาด ผู้เข้าชมสามารถพักผ่อนบนเก้าอี้ชายหาดที่ตั้งอยู่บนพื้นทราย ท่ามกลางกำแพงที่ถูกทาสีให้สื่อถึงความสงบของท้องทะเล ขณะจ้องมองผลงานศิลปะแบบนามธรรมและสื่อผสม พวกเขาจะได้รับเชิญให้ไตร่ตรองถึงทั้งความงามทางสุนทรียะและความเปราะบางทางนิเวศวิทยาของมหาสมุทร

นิทรรศการ Dreamverse จึงเป็นการบอกเล่ามุมมองการสร้างโลกส่วนตัวที่ได้รับอิทธิพลผ่านวัฒนธรรมการเห็น โดยมีที่มาการรับรู้ภาพของสื่อ อาทิ โลกอินเตอร์เน็ต ภาพยนตร์ ภาพประกอบนิทาน ภาพสารคดีเป็นต้น แล้วถูกนำมาตีความใหม่ผสมผสานจินตนาการของกลุ่มศิลปินภายใต้นิยามความหมายของคำว่า ”Dreamverse “

นิทรรศการนี้มุ่งเน้นการสนทนาทางวัฒนธรรมและอิทธิพลร่วมกันระหว่างศิลปินญี่ปุ่นและไทย แสดงให้เห็นว่าศิลปินเหล่านี้ตีความและผสมผสานประเพณี เทคนิค และธีมของกันและกันอย่างไร ผ่านสื่อหลากหลาย ตั้งแต่การวาดภาพและประติมากรรมแบบดั้งเดิมจนถึงการติดตั้งร่วมสมัย นิทรรศการนี้แสดงให้เห็นถึงมรดกทางศิลปะที่แบ่งปันกันและการสนทนาเชิงสร้างสรรค์

นิทรรศการกลุ่ม MarTro A-14: Mission to Mars เล่าเรื่องการผจญภัยของ StrayPups หมาน้อยที่ได้รับคำชักชวนจากสิ่งมีชีวิตนอกโลกให้สำรวจอวกาศ เขามุ่งหน้าไปดาวอังคารด้วยความคิดว่า “การเดินทางสู่ดาวอังคาร: เปลี่ยนความฝันให้เป็นจริงผ่านศิลปะและนวัตกรรม!”

นิทรรศการนี้แสดงให้เห็นถึงการพบกันครั้งแรกของตัวละครจากสองดวงดาวที่แตกต่าง มีการแลกเปลี่ยนมิตรภาพด้วยดอกไม้ และการร่วมผจญภัยในอวกาศไปด้วยกัน ผ่านผลงานภาพวาด, งานประติมากรรม และศิลปะการจัดวาง   ที่สร้างบรรยากาศเสมือนการเดินทางในอวกาศ ผู้ชมจะได้สัมผัสถึงการยอมรับและการเฉลิมฉลองในความแตกต่างของกันและกัน พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการยอมรับและรักในสิ่งที่เราเป็น

ในนิทรรศการนี้ ผู้ชมจะได้ลอยพ้นชั้นเมฆขึ้นไปจนเกือบจะหลุดโลกกับ ”มังกร“ ตัวละครตัวเดียวที่บินเองได้จากงานชุด ”คนหัวเมฆ” ก่อนพวกเขาจะบอกลาท่านผู้ชมที่จะเดินทางต่อ ออกนอกชั้นบรรยากาศของโลกด้วย MarTro A-14 พาหนะล้ำสมัยที่เปี่ยมไปด้วยวิทยาการ และ จินตนาการ ไปผจญภัยกับ Metro Art Series 5 ตั้งแต่ 20 มิถุนายน – 30 กันยายน 2567

“ตั้งแต่เราเกิดมา ชีวิตเราเจอเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ในบางเรื่องส่งผลกระทบต่อจิตใจ จนยากที่จะลืม และบางเรื่องยังคงเป็นความรู้สึกบางอย่างภายในใจ และไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาพูดได้”